เมื่อเทคโนโลยีด้านศัลยกรรมเสริมความงามถูกพัฒนาไปถึงขั้นที่เจ็บตัวน้อยลง พักฟื้นหายไวขึ้น ข้อมูลเข้าถึงได้ง่าย แถมราคามีให้เลือกทุกระดับที่รับได้ ยุคนี้เลยกลายเป็นยุคที่สวยหล่อกันแบบปากต่อปาก ยิ่งมองคนที่เดินเข้าประตูสถานเสริมความงาม หรือคลินิกต่างๆ จะเห็นว่า อายุคนที่สนใจที่จะทำศัลยกรรมความงามมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ นิยมชิงหล่อชิงสวยกันแบบไม่รอแก่แล้วต้องมานั่งแก้กันให้ยุ่งยาก ยิ่งมีภาพ Before กับ After ในอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งยั่วยวนใจอยากจะนมใหญ่ ดั้งโด่งกับเขาบ้าง จนหมอศัลยกรรมตกแต่งเก่งๆ หลายท่านกลายเป็นหมอคิวทองต้องจองคิวกันเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว
นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์ คุณหมอคิวทอง ติดอันดับ Top 10 ที่ถูกสาวๆ search ชื่อหาข้อมูลมากที่สุดในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะเรื่อง การศัลยกรรมเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำที่ดูเป็นธรรมชาติมากจนสาวๆ หลายคนต้องโพสต์รูปตัวเองอวดโฉมกันเลยทีเดียว เรามารู้จักตัวจริงเสียงจริงคุณหมอกันดีกว่า คุณหมอพีระ เทียนไพฑูรย์ เรียนจบจากรร.เตรียมอุดมศึกษาแล้วสามารถสอบเข้าได้ที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบวุฒิบัตรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมทั่วไป และเรียนต่อด้านศัลยกรรมตกแต่งจนได้วุฒิบัตรศัลยแพทย์ตกแต่ง ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน จากนั้นจึงไปทำงานเป็นอาจารย์ศัลยกรรมตกแต่ง ที่ภาควิชาศัลย-ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และปัจจุบันได้มาก่อตั้ง PSC Clinic (Peera Plastic and Skin Clinic)
ความตั้งใจจริงสู่.. ศัลยแพทย์ตกแต่ง
“ตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย เดิมผมชอบวิชาผ่าตัดอยู่แล้ว และได้ผ่านไปเรียนที่ภาคศัลยกรรมตกแต่ง จุฬาฯ ตอนนั้นเห็นอาจารย์ทำผ่าตัดแล้วรู้สึกทึ่งมาก เพราะสามารถทำได้ทั้งให้คนไข้สวยขึ้นหรือช่วยแก้ไขความพิการต่างๆ ของร่างกายก็ได้ด้วย ประกอบกับตั้งแต่วัยเด็กชอบงานด้านศิลปะ วาดภาพวิว ภาพคน ยังเคยคิดว่าตอนอายุมากๆ สุดท้าย อยากไปวาดภาพอยู่ตามต่างจังหวัดสงบๆ จึงคิดว่ามีงานผ่าตัดเพียงด้านศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้นที่ผนวกเอาวิชาผ่าตัด และศิลปะเข้าด้วยกัน เรียกว่าได้ทำอย่างที่ชอบไปพร้อมกันเลย จึงตั้งใจกลับมาเรียนเฉพาะทางด้านนี้ที่จุฬาฯ ตอนนั้นมีการเรียนทั้งที่รพ.จุฬาฯ และที่รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ด้วย ต้องกราบขอบพระคุณทางคณาจารย์ศัลยแพทย์ตกแต่งในขณะนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศ.นพ. จรัญ มหาทุมะรัตน์ ที่ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ศาสตร์ต่างๆ ทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้าง แนวความคิด จริยธรรม ให้กับหมอ อันเป็นเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก ที่นำมาปรับใช้จนถึงทุกวันนี้
จากนั้นเมื่อไปทำงานเป็นอาจารย์ ก็ได้มีประสบการณ์รักษาคนไข้ต่างๆ มากมาย ทั้งด้านความสวยงาม และการแก้ไขความพิการแต่กำเนิด รักษาอุบัติเหตุกระดูกใบหน้าแตกหัก โรคมะเร็งตามร่างกายต่างๆ การผ่าตัดด้วยกล้องจุลทรรศน์ ตรงนี้เป็นข้อได้เปรียบของศัลยแพทย์ตกแต่ง เมื่อเทียบกับศัลยแพทย์อื่นที่ไม่ได้จบมาโดยตรง เพราะศัลยแพทย์ตกแต่งนั้นได้มีโอกาสเห็นโครงสร้างร่างกายมนุษย์อย่างละเอียด จึงทราบดีว่าโครงสร้างอวัยวะต่างๆ นั้นเป็นอย่างไร ตรงไหนเป็นเส้นประสาท เส้นเลือด หรือกระดูกที่สำคัญ งานผ่าตัดด้านศัลยกรรมความงามนั้นแทบจะเกี่ยวข้องกับทุกส่วนของร่างกาย ตรงนี้จึงทำให้ศัลยแพทย์ตกแต่งสามารถพัฒนางานผ่าตัดได้ดี หรือบางครั้งแม้กระทั่งการฉีดสารฟิลเลอร์ที่ใบหน้า ซึ่งไม่ใช่การผ่าตัด หมอก็ยังฉีดโดยอาศัยหลักการเลียนแบบโครงสร้างธรรม-ชาติ คนไข้จึงรู้สึกได้ว่าผลลัพธ์เป็นธรรมชาติมาก”
ต่อยอดความรู้อยู่เสมอ
“ด้วยเป็นคนที่ชอบพัฒนาความรู้อยู่เสมอจึงมักหาเวลาไปศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นเรื่องการผ่าตัดหน้าอก และการผ่าตัดศัลย-กรรมความงามใบหน้า เพื่อให้สามารถควบคุมให้ผลลัพธ์การทำงานของเรามีความสวยงามให้ได้มากที่สุด ผิดพลาดน้อยที่สุด และต้องสามารถ create ความสวยงามซน้ำๆ ให้คนไข้ทุกคนได้ โดยเฉพาะในด้านศัลยกรรมหน้าอก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยทีเดียว จากการที่หมอทำศัลยกรรมหน้าอกไปแล้วกว่า 4,000 ราย หมอก็ได้รับเชิญไปร่วมในการประชุมศัลย-แพทย์ด้านเต้านมแห่งเอเชีย (ABAS) ซึ่งคนที่ไปร่วมงานนั้นกล่าวได้ว่าต้องเป็นศัลยแพทย์ที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะเท่านั้น และได้พบเพื่อนใหม่มากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดของศัลยแพทย์ด้านเต้านมของประเทศนั้นๆ ทั้งสิ้น ทำให้ได้พบปะ ถ่ายทอดประสบการณ์ซึ่งกันและกันซึ่งหมอคิดว่าเป็นสิ่งลน้ำค่า เพราะเป็นประสบการณ์ตรงจากการผ่าตัดมาหลายสิบปีและได้พบปะกับสุดยอดศัลยแพทย์เต้านมต่างๆ เช่น Dr.Charles Randquist (Sweden), Dr.Yoshinori Nagumo (Japan), Dr.Lee Paik Kwon (South Korea) ซึ่งยังคงติดต่อและพบกันเสมอในงานประชุมประจำปี นอกจากนี้ในปี 2011 ก็ได้มีโอกาสไปศึกษา International Fellowship ด้านศัลยกรรมตกแต่ง ที่ St.Mary Catholic University Hospital(1 ใน 3 โรงเรียนแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้) กับ Professor Sangtae Ahn (ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง President of Korean Society of Breast Plastic and Reconstructive Surgery) โดยเน้นไปที่ด้านศัลยกรรมเต้านมและศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า พร้อมทั้งได้ไปเยี่ยมชมเทคนิคการผ่าตัดจากคลินิกชื่อดังย่าน Apgujeong-Dong ซึ่งถือเป็นย่านที่มีคลินิกศัลยกรรมตกแต่งหนาแน่นที่สุดของกรุงโซล ทำให้เปิดมุมมองกว้างมากขึ้น
หมอคิดว่าศัลยแพทย์ตกแต่งด้านความงามที่ดี ต้องมี sense of art สูงแต่หากไม่มีก็สามารถฝึกฝนกันได้ มีตัวอย่างเรื่องหนึ่งคือ เมื่อปี 2008 หมอไปที่นคร San Francisco, USA เพื่อเข้าร่วมงาน Art Of Rhi-noplasty ซึ่ง Dr. Bernstein จัดไว้ดีมาก นอกจากความรู้ด้านการผ่าตัดแล้ว มีคลาสหนึ่งเรียกว่า Clay (ดินเหนียว) จะมีรูปปั้นหน้าคนทำจากดินเหนียวมาให้ แต่ไม่มีจมูก แล้วให้คนที่มาร่วมงาน ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งจากนานาประเทศปั้นจมูกที่ตนคิดว่าเป็นธรรมชาติมากที่สุดลงไป แล้วให้คนทั้งงานร่วมกันลงคะแนนโหวต ครั้งนั้นมีหมอต่างชาติจากฝรั่งเศสคนหนึ่ง และผมจากเมืองไทยที่ได้คะแนนโหวตสูงสุดเท่ากัน ครั้งนั้นยิ่งทำให้ลึกซึ้งว่างานศิลปะกับงานศัลยกรรมตกแต่งนั้นแยกจากกันไม่ออกจริงๆ”
ผลงานที่ภูมิใจ
“หมอยึดหลักที่ว่าเราต้องเป็น The Best Professional ในการทำงานด้านนี้ ซึ่งหมายถึงว่า ต้องลึกซึ้งในสิ่งที่ทำนั้นคือความหมาย Pro-fessional ของผม ร่วมกับ Creativity ซึ่งจำเป็น เพราะแวดวงศัลยกรรมตกแต่งมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคนิคค่อนข้างสูงและกำลังจะเปลี่ยนแปลงอีกโฉมหน้าหนึ่ง จากที่คนไข้สมัยก่อนไม่ได้ค้นคว้าหาข้อมูลด้านการศัลยกรรม ปัจจุบันคนไข้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย เพราะฉะนั้นผลลัพธ์ที่ดีพอเท่านั้นถึงจะคงอยู่ได้ในอนาคต นั่นก็คือเหตุผลทีผมพัฒนางานหลักๆ ขึ้นมา 2 เรื่องคือ
1.ด้านศัลยกรรมเสริมหน้าอก ผมเริ่มทำ การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิ-โคนทรงหยดน้ำ (Tear drop, Anatomic implant) อย่างจริงจัง เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ขณะนั้นเพิ่งเริ่มมีการนำเข้ามาในเมืองไทยแต่ยังไม่แพร่หลายมากนัก ก่อนนั้นมีการทำในเมืองไทยอยู่บ้าง แต่มักเป็นในกรณีผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมให้แก่คนไข้ที่เป็นมะเร็งเต้านมและตัดเต้านมไปแล้ว จากการสังเกตและติดตามคนไข้อย่างใกล้ชิด พบว่าซิลิโคนชนิดนี้ได้ผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจของคนไข้สูงและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งตรงกันกับทางต่างประเทศ ตอนนี้หลายประเทศใกล้ๆ เรา เริ่มตื่นตัวมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม แม้กระทั่งจีน ที่เกาหลีใต้เอง ศัลยแพทย์ตกแต่งก็สนใจกันมาก เพียงแต่วัสดุนี้กำลังเพิ่งจะเริ่มเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้ในปีนี้ ซิลิโคนทรงหยดน้ำนั้น ปัจจุบันผลิตโดยบริษัทชั้นนำด้านเต้านมเทียมของโลก ได้แก่ Allergan, Mentor และ Silemed และจนกระทั่งวันนี้หมอได้ผ่าตัดเคสเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนทรงหยดน้ำไปแล้วกว่า 2,500 ราย ความแตกต่างของซิลิโคนทรงหยดน้ำกับทรงกลม คือ ในคนที่รูปร่างผอมบาง กล้ามเนื้อบาง การผ่าตัดเสริมทรงกลมอาจจะมองเห็นวัสดุที่ดูกลม ทำให้ไม่เหมือนหน้าอกจริง ซึ่งซิลิโคนทรงหยดน้ำนั้นผลิตมาเลียนแบบหน้าอกจริง จึงทำให้ดูไม่หลอกตาและเหมือนธรรมชาติได้ดีขึ้น แม้ซิลิโคนทรงหยดน้ำนี้จะมีราคาวัสดุสูงมาก และต้องการเทคนิคในการผ่าตัดที่ดีและแม่นยำสูง คนไข้ส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนมาเลือกใช้กันมากขึ้น
2.การผ่าตัดเสริมจมูก ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่น่าจะมีมากที่สุดในบ้านเราผมได้พัฒนาการผ่าตัดเสริมจมูกโดยใช้กระดูกอ่อนมาทดแทนการใช้ซิลิโคนที่ปลายจมูก เนื่องจากพบว่าปัญหาของซิลิโคนในระยะยาวนั้นมีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณปลายจมูก ที่มีโอกาสทะลุหรือผิวหนังบางลงจนดูไม่เป็นธรรมชาติ มองเห็นเป็นซิลิโคนอยู่ด้านล่าง ซึ่งเมื่อก่อนนี้มีการพยายามหาวัสดุต่างๆ เพื่อมาทดแทนซิลิโคน เช่น เนื้อเยื่อไขมันแต่ก็พบว่ามีการสลายไปได้และรูปร่างไม่คงตัว เมื่อหันมาพิจารณากระดูกอ่อน จากพื้นฐานทางศัลยกรรมตกแต่งเป็นที่ทราบกันดีว่า กระดูกอ่อนนั้นพิสูจน์แล้วว่าคงสภาพมากที่สุดเมื่อมีการนำมาปลูกถ่าย (Grafting) จึงเกิดการต่อยอดความคิดนำมาใช้สร้างเป็นปลายจมูก (Tip Plasty) โดยไม่มีการใช้ซิลิโคนที่ปลายจมูกเลย ข้อดีคือ ลดปัญหาเนื้อจมูกบางและทะลุปลายในระยะยาว
อย่างไรก็ตามการใช้กระดูกอ่อนนี้อาจมีความซับซ้อนในการผ่าตัด และค่าใช้จ่ายที่สูงเนื่องจากใช้เวลาผ่าตัดที่นานกว่าปกติมากกว่า 3-4 เท่าตัวแต่ด้วยการเน้นถึงผลลัพธ์ในการรักษาเป็นหลัก แม้ต้องทำงานที่ยากขึ้นก็จำเป็นต้องทำ การผ่าตัดโดยใช้กระดูกอ่อนนี้ตรงกันกับของต่างประเทศซึ่งบางประเทศยกเลิกการใช้ซิลิโคนที่ปลายจมูกมานานแล้ว เช่นเกาหลีใต้ เป็นต้น โดยมากกระดูกอ่อนที่ใช้ก็มาจากหลังใบหู หรือกระดูกอ่อนกั้นกลางจมูก (Septum) ซึ่งในความเห็นส่วนตัวคาดว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเทคนิคในการเสริมจมูกอีก 5-10 ปีข้างหน้าในเมืองไทย”
Trend ผ่าตัด ปี 2012 และเทคโนโลยีใหม่ๆ
“ประการแรก คนจะพยายามเลือกหาวิธีการผ่าตัดที่เจ็บน้อยและฟื้นตัวเร็ว เนื่องจากทุกวันนี้คนเรารีบเร่งในการทำงาน การผ่าตัดที่สามารถฟื้นตัวได้เร็วที่สุดมักได้รับการยอมรับจากคนไข้มากกว่า เช่น การผ่าตัดเสริมหน้าอกทางด้านแผลราวนม ซึ่งสามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 2-3 วันเท่านั้น เมื่อเทียบกับต้องใช้เวลาถึง 7 วัน ในการผ่าตัดผ่านทางรักแร้ หรือเลือกการผ่าตัดส่องกล้องดึงคิ้ว ซึ่งแผลเล็กกว่าแบบเปิดแผลยาวแบบในอดีตมากหรือเลือกที่จะเสริมจมูก เสริมคาง เสริมโหนกแก้ม ด้วยการฉีด Filler เป็นต้นประการที่ 2 คนจะเลือกการผ่าตัดที่ให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น โดยใช้เทค-โนโลยีต่างๆ เข้าช่วย หรือการใช้เนื้อเยื่อจริงของคนไข้ เช่น การผ่าตัดส่องกล้องเพื่อดึงคิ้ว ในปัจจุบันมีการพัฒนาวัสดุยึดหนังศีรษะเข้ากับกะโหลกหน้าผากส่วนบน เพื่อตรึงให้คิ้วอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้นานขึ้น รอจนเนื้อเยื่อสมานตัวแข็งแรงดี ลดอัตราการหย่อนซน้ำของคิ้ว วัสดุนั้นสามารถสลายไปได้เอง ชื่อ Endotine หรือ การผ่าตัดเสริมจมูกโดยการใช้กระดูกอ่อน, การฉีดใบหน้าทำ Rejuvenation โดยใช้ไขมันตนเอง เหล่านี้เป็นต้น ประการที่ 3 คนจะเลือกการผ่าตัดที่ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นเช่น วัสดุเสริมหน้าอก ทรงหยดน้ำ”
แนวคิด คติ ในการทำงาน“แนวคิดและคติในการทำงานของผม ผมขอแบ่งออกเป็น 4 ข้อหลักๆ คือ 1.การทำงานแบบ professional คำนี้ในความหมายของหมอคือ ความลึกซึ้งในงานที่ทำ 2.ความสำเร็จ ไม่มีทางลัด 3.การสร้างกำแพงที่แข็งแกร่งได้นั้น อิฐทุกก้อนสำคัญเท่ากัน ซึ่งเป็นคำพูดของ รศ.นพ.ประยุทธ โชครุ่งวรานนท์ หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ตกแต่ง รพ.จุฬา คนปัจจุบัน ซึ่งประโยคนี้หมายถึง เราต้องละเอียดและใส่ใจในทุกเรื่อง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดูเล็กน้อยเพียงใด ดังนั้นหมอจึงเน้นความพึงพอใจของคนไข้สูงที่สุด ทั้งผลลัพธ์การผ่าตัด ความปลอดภัย การตรวจติดตามที่ดี การบริการ จนทุกวันนี้คนไข้ของหมอส่วนใหญ่นั้นเป็นแบบบอกต่อปาก และต่อปากและข้อสุดท้ายคือยึดคำพูดของ ศ.นพ.จรัญ มหาทุมะรัตน์ คือ คิดดี ทำดี การทำงานกับคนไข้นั้นก็จะเห็นทุกคนเหมือนน้อง เหมือนเพื่อน เหมือนญาติ เพื่อที่เราจะได้ take care เอาใจใส่ เอาใจเขา ใส่ใจเรา ทุกวันนี้ผมทำงานแบบ one-to-one นะ คนไข้ทุกราย ผมจะตรวจ ผ่าตัดและติดตามอาการเองทุกขั้นตอน หลายครั้งรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็รู้สึกยินดี”
คนไข้หลายคนเลือกแพทย์จากค่าใช้จ่าย “ผมว่าทุกอย่างในเนื้องานก็มีความซับซ้อนของตัวมันเอง ค่าใช้จ่ายนั้นราคาถูกมากไปก็ไม่ดี เพราะถ้าถูกมากก็จะจำกัดด้านคุณภาพลง แม้หมอจะอยากทำงานที่มีคุณภาพมากๆ แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกมากๆ คุณหมอก็ไม่สามารถทำได้ แต่ในทางกลับกันราคาสูงมากก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีนะ มองว่าเป็นเรื่องของความพึงพอใจ เช่นการทำจมูกโดยทั่วไปมีตั้งแต่ 4,000-150,000 บาท ส่วนหน้าอกก็มีตั้งแต่ประมาณ 30,000 -200,000 บาท จะเห็นได้ว่าราคาไม่ได้บอกมาตรฐานอะไร เป็นความพึงพอใจมากกว่า ดังนั้นคนไข้ควรจะศึกษาให้ดีเพราะราคาไม่ได้เป็นตัวชี้วัดมากนัก ในอนาคตราคาอาจไม่ใช่ตัวกำหนดอีกต่อไป คนไข้จะใฝ่หาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา”
แนะนำการเลือกศัลยแพทย์ก่อนตัดสินใจ“หากเป็นไปได้ แนะนำเลือกศัลยแพทย์ที่จบด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยตรง เนื่องจากทุกท่านผ่านการฝึกฝน อบรมความรู้ทักษะ เกี่ยวกับการผ่าตัด การประเมินสภาพเนื้อเยื่อผู้ป่วย การเลือกการผ่าตัดรักษาที่ปลอดภัย โดยสามารถดูรายชื่อได้จากเว็บไซต์ของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย (www.plasticsurgery.or.th) และควรจะต้องเข้าไปปรึกษาขอข้อมูลก่อนโดยตรงกับศัลยแพทย์ โดยดูในรายละเอียดของการผ่าตัด ผลลัพธ์ ผลเสีย และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะสิ่งที่เราจะทำจะอยู่กับเราไปตลอด”
Doctor Profile
นพ.พีระ เทียนไพฑูรย์
Education
• แพทยศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• Certifed Board of General Surgery จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• Certifed Board of Plastic and Reconstructive Surgery จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• อาจารย์ศัลยแพทย์ตกแต่ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ตำแน่งปัจจุบัน
• Director of PSC Clinic (Peera Plastic and Skin Clinic), Bangkok, Thailand
Membership
• สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย
• สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย
• International Society of Aesthetic Plastic Surgery (ISAPS)
Advanced Training
• Art of Rhinoplasty (San Francisco)
• International Fellowship in Plastic Surgery (Breast and Facial Surgery)
(St.Mary Catholic university Hospital , Seoul, South Korea)
Specialist
• Breast surgery
• Facial surgery
International Presentation
• เทคนิคการเพิ่มความสวยงามของรูปทรงหน้าอกในการผ่าตัดแก้ไข พังผืดจากการเสริมหน้าอก
(Presented in Asian Symposium for Breast Plastic and Reconstructive Surgery 2011, South Korea)